ฮีโร่เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทยอย่าง สมรักษ์ คำสิงห์ เจ้าของวลีฮิตติดปาก ไม่ได้โม้! ถูกวง บอดี้สแลม นำเรื่องราวชีวิตบนสังเวียนที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นแชมป์มวยสากลเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทยที่ทั้งชื่อเสียงเงินทองถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว กระทั่งร่วงลงสู่จุดติดลบกลายเป็นคนล้มละลาย มาถ่ายทอดเป็นมิวสิกวิดิโอเพลงใหม่ “ผักบุ้งลอยฟ้า” ที่ทั้ง 5 หนุ่ม “ตูน , ปิ๊ด , ชัช , ยอด , โอม” ได้ฟีเจอริ่งเพลงนี้กับ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ อีกด้วย โดย ตูน เล่าว่า
“ผมมักจะจดคำและวลีต่าง ๆ ที่น่าสนใจเอาไว้ในสมุดโน๊ต โดยหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะไปต่อยอดเป็นเพลงได้ วันหนึ่งนั่งรถผ่านร้านข้าวต้มแล้วนึกสนุกขึ้นว่าหากเอาชื่อเมนูอาหารมาแต่งเป็นเพลงได้ก็คงจะน่าสนใจจึงเป็นที่มาของซิงเกิ้ลนี้ โดยเพลงได้เปรียบเทียบผักบุ้งกับชีวิตคนที่เกิดมาจากดิน เจริญเติบโตได้รับการเรียนรู้ ได้รับการปรุงแต่ง ทำให้พบกับความสำเร็จเหมือนผักบุ้งที่ลอยอยู่บนฟ้า ในขณะที่ผักบุ้งที่ตกลงมาก็เหมือนกับชีวิตคนที่มีขึ้นมีลง บางคนตกลงมาเจอพื้นดินก็เหมือนกับชีวิตบั้นปลายที่ไม่มีความสุข แต่ในขณะที่บางคนตกลงมายังมีจานที่รองรับ มีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ข้าง ๆ ทำให้ชีวิตก้าวต่อไปได้อย่างมีความสุข ซึ่งความพิเศษของเพลงนี้ ได้ชวน พี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ มาร่วมสร้างสีสัน ทำให้เพลงนี้มีเนื้อหาที่เข้มข้นดุดันมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้ พี่อ๊อฟ บิ๊กแอส มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้อีกด้วย” ตูน บอก
ในส่วนของมิวสิกวิดีโอได้ ซาดาส – คุณากรณ์ สุวะมินทร์ มาทำหน้าที่กำกับ ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของ บาส – สมรักษ์ คำสิงห์ ที่มีเบื้องหลังชีวิตสอดคล้องไปกับเนื้อหาของเพลง ที่เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ได้รับการผลักดันจากพ่อให้ขึ้นมาเป็นนักมวยเพื่อหารายได้ตั้งแต่เด็ก ด้วยความมุ่งมั่นทำให้ความสามารถโดดเด่นกว่าใครจนได้เข้าเป็นนักกีฬาทีมชาติและได้รับเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของประเทศไทย ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้มีความสุข และยังทำให้ชีวิตของสมรักษ์ลอยอยู่ในจุดสูงสุดมีทั้งเงิน ชื่อเสียงและการยอมรับ จนกระทั่งชีวิตหักเหดิ่งลงถึงขั้นล้มละลาย แต่สุดท้ายเขาก็มีครอบครัวคอยให้กำลังใจ ซึ่ง สมรักษ์ ได้เผยถึงความรู้สึกที่มีอากาสได้เป็นส่วนหนึ่งของเพลงนี้ว่า…
“ส่วนตัวผมมีความชื่นชอบวง บอดี้สแลม อยู่แล้วครับ พอทางทีมงานโทรมาให้เราไปเล่นมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ก็รู้สึกยินดีมากๆ ยิ่งพอทีมงานบอกว่าเพลงนี้ต้องเป็นพี่บาสเล่นเท่านั้น เพราะพี่ตูนร้องเพลงนี้แล้วนึกถึงหน้าพี่บาส ก็นับว่าเป็นเกียรติจริงๆครับ (ยิ้ม) พอเพลงออกมาหลายๆคนได้ฟังเพลงนี้ก็โทรมาบอกว่าฟังแล้วร้องไห้บ้าง น้ำตาซึมบ้างเพราะได้ฟังได้ดูเอ็มวีเพลง และ ได้กำลังใจขึ้นเยอะ เอาจริงๆผมยังคิดเลยว่าทีมงานเก่งมากที่รวบรวมเรื่องราวในชีวิตของผมกว่า 47 ปีที่เกิดมาอยู่ภายในหนึ่งบทเพลงได้ แถมยังเล่าเรื่องได้ตรงกับชีวิตของใครหลายๆคนที่มีการล้ม และ ลุกขึ้นมาอีกครั้ง ตอนถ่ายเอ็มวีเพลงนี้ไม่ได้มีโอกาสได้เจอกับ พี่ตูน ครับ แต่พอถ่ายเสร็จเค้าก็โทรมาหาว่าขอบคุณพี่บาสที่มาร่วมงานด้วย ผมหวังว่าเพลงผักบุ้งลอยฟ้าจะเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนได้ต่อสู้ ไม่ท้อถอยกับอุปสรรค และ หยิบนำเอาเรื่องราวของเพลงนี้ไปเป็นตัวอย่างในสิ่งดีๆต่อไปครับ” สมรักษ์ บอก
