เปิดตัว All-New Honda Accord 2019

All-New Honda Accord 2019

(เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562) สิ้นสุดการรอคอยกับ All-New Honda Accord 2019 Generation 10 ที่เปิดตัวไปอย่างสวยงาม ณ โชว์รูมฮอนด้าพาราไดซ์ เชียงใหม่ “คุณสุเมศร์ เพ็ญสุข” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฮอนด้าพาราไดซ์ เชียงใหม่ จำกัด ได้จัดงานเปิดตัว All New Honda Accord 2019 ขึ้น ณ โชว์รูมฮอนด้าพาราไดซ์ โดยได้รับความสนใจจากบรรดาลูกค้าฮอนด้าทั้งเก่าและใหม่เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุขและสนุกสนาน จัดเต็มกันตั้งแต่ต้นเดือน พร้อมกิจกรรมเล่นเกมส์ลุ้นของรางวัล Test Drive และพูดคุยกับที่ปรึกษาการขาย สัมผัส All New Honda Accord 2019 เป็นต้นและโปรโมชั่นในงานที่รับรองว่าโดนใจอีกมากมาย รวมทั้งมีแจกของที่ระลึกให้แก่ผุ้ที่มาเยี่ยมชมทุกคน

นอกจากจะได้รับความสนใจจากลูกค้าฮอนด้าทั้งเก่าและใหม่แล้ว บรรดาคนรักซีวิคจาก Civic Fc & Fk Northern Club และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ก็ให้เกียรติเข้าร่วมงานในครั้งนี้กันอย่างมากมาย รวมทั้งพันธมิตรที่มาออกบู้ธสร้างความคึกคักภายในงานร่วมกับฮอนด้าพาราไดซ์ เชียงใหม่ โชว์รูมและศูนย์บริการรถฮอนด้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ที่จะมีโปรโมชั่นดีๆและกิจกรรมสร้างความสุขสนุกสนานให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทีมงานคุณภาพที่จะให้การดูแลแนะนำเป็นอย่างดี “ฮอนด้าพาราไดซ์…สวรรค์ของคนรักฮอนด้า”

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม… Honda Accord 2019 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่องเป็นเจเนอเรชั่นที่ 10 ถูกวางให้เป็น “รถสปอร์ตพรีเมียมซีดาน” ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร เป็นครั้งแรกในกลุ่ม D-Segment และเครื่องยนต์ไฮบริด Sport Hybrid i-MMD เพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัย Honda SENSING มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย TURBO EL , HYBRID และ HYBRID TECH

ดีไซน์ของ Honda Accord 2019 ใหม่ ทุกรุ่นติดตั้งไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์รูปทรงตัว C และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ ส่วนรุ่น Hybrid ติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารติดตั้งมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display), เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI, ระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์และเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมท (Engine Remote Start) เป็นต้น

ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งระบบ Honda SENSING ทำงานด้วยเรดาร์เซ็นเซอร์และกล้องด้านหน้า ประกอบด้วย 5 ฟีเจอร์ ได้แก่ ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

ด้านระบบความปลอดภัยพื้นฐานอื่นๆ ประกอบด้วย ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) รองรับทั้งการจอดขนานและจอดเข้าซอง, ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) สามารถแสดงภาพมุมสูงได้ และระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM)

เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ระบบหัวฉีดไดเร็คอินเจคชั่นและเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earth Dream สำหรับทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เทอร์โบโดยเฉพาะ มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 16.4 กม./ลิตร ที่ฮอนด้าระบุว่าประหยัดกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเดิม รองรับเชื้อเพลิงทางเลือก E85 ได้

เครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร i-MMD (Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive) ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ Atkinson-cycle i-VTEC 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 215 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 24.4 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัมต่อกิโลเมตร

ต้องบอกเลยว่า เห็นเรียบๆ แต่เสป็คพร้อมเพียบ เฉียบ และดุมาก!!!